ตัวอักษรญี่ปุ่นที่ใช้กันในปัจจุบันมีอยู่ 3 แบบ
1. อักษรฮิระงะนะ
อักษรฮิรางะนะใช้เขียนคำศัพท์ภาษาญี่ปุ่น พัฒนามาจากอักษรจีน เริ่มแรกเรียก อนนะเดะ หรือ มือของผู้หญิง เพราะใช้เขียนโดยผู้หญิงเป็นส่วนใหญ่ ผู้ชายจะเขียนโดยใช้คันจิ และคะตะคะนะ ฮิระงะนะจึงใช้โดยทั่วไป คำว่า ฮิระงะนะ หมายถึง อักษรพยางค์สามัญ รูปแบบแรกๆของฮิระงะนะ มีสัญลักษณ์หลายตัวที่ออกเสียงเหมือนกัน ระบบการเขียนมีความแตกต่างกันขึ้นกับผู้เขียนแต่ละคน รัฐบาลญี่ปุ่นเข้ามาจัดรูปแบบ จึงกลายเป็นอักษรที่ใช้ในปัจจุบัน
2. อักษรคะตะคะนะ
อักษรคะตะกะนะมีสัญลักษณ์ 48 ตัว ในยุคแรกรู้จักในนาม การเขียนของผู้ชาย คะตะกะนะใช้กับคำยืมที่ไม่ได้มาจากภาษาจีนเป็นส่วนใหญ่ รวมทั้งการเลียนเสียง ชื่อจากภาษาอื่น การเขียนโทรเลข และการเน้นคำ (แบบเดียวกับการใช้อักษรตัวใหญ่ในภาษาอังกฤษ) ก่อนหน้านั้นคำยืมทั้งหมดเขียนด้วยคันจิ ใช้ในหลายกรณี ได้แก่
-ใช้เขียนคำที่ยืมมาจากภาษาต่างประเทศ ชื่อชาวต่างประเทศ และชื่อสถานที่ในต่างประเทศ
เช่น ホテル (โฮะเตะรุ หรือ Hotel)
-ใช้เขียนคำซึ่งเลียนเสียงในธรรมชาติ
เช่น ワン ワン (วัง วัง เสียงเห่าของสุนัข)
-ใช้เขียนชื่อชาวต่างชาติ ชื่อสัตว์ และชื่อแร่ธาตุ
เช่น カルシウム (คะรุซิอุมุ หรือ แคลเซียม)
-ใช้ในเอกสารใช้ยุคก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง (ใช้ร่วมกับตัวอักษรคันจิ)
3. อักษรคันจิ
อักษรคันจิ เป็นอักษรจีนที่ใช้ในระบบการเขียนภาษาญี่ปุ่นในปัจจุบัน ใช้ร่วมกับ ฮิระงะนะ คะตะคะนะ โรมะจิ และตัวเลขอารบิก เนื่องจากอักษรคันจิคืออักษรจีนที่นำมาใช้ในภาษาญี่ปุ่น อักษรคันจิหนึ่งจึงตัวอาจอ่านได้หลายแบบ อาจถึงสิบแบบหรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับรูปประโยค เป็นคำประสม หรือตำแหน่งคำในประโยคนั้นๆ การอ่านออกเสียงตัวอักษรคันจินั้นแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ
เสียง อง คือ การอ่านตามเสียง เป็นการออกเสียงคันจิของคำนั้นตามเสียงภาษาจีน
เสียง คุน คือ การอ่านตามความหมาย เป็นการออกเสียงคันจิของคำนั้นในภาษาญี่ป่น
Comentários